[wealth]ทรัมป์ 2.0 เริ่มแล้ว สรุปนโยบายหลังสาบานตน

โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ณ อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ภายในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2568 ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการกลับมาทำหน้าที่ผู้นำของทำเนียบขาวเป็นสมัยที่ 2 ( ทรัมป์ 2.0 )

ในคำปราศรัยในการรับตำแหน่งครั้งนี้ ทรัมป์ เปิดเผยว่า จะลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับ และสัญญาว่าจะเริ่มฟื้นฟูสหรัฐฯ และปฏิวัติสามัญสำนึกอย่างสมบูรณ์ พร้อมประกาศนโยบายที่จะดำเนินการหลังการรับตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะสวนทางกับนโยบายของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน

สรุปนโยบายใหม่เบื้องต้นได้ดังนี้

ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติเพื่อลดราคาพลังงานในสหรัฐ ด้วยการเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน และตั้งโรงกลั่นน้ำมัน

ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติทางชายแดนด้านใต้สหรัฐ และส่งกำลังทหารเข้าปกป้องชายแดนเพื่อสกัดการลักลอบเข้าเมืองจากเม็กซิโก และสหรัฐจะทำการเนรเทศอาชญากรต่างชาติกลับประเทศ

ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารในการประกาศว่ารัฐบาลกลางสหรัฐจะให้การยอมรับเพียง 2 เพศ คือเพศชายและเพศหญิง ขณะที่ยุติโครงการส่งเสริมความหลากหลายและเท่าเทียมทางเพศ

นำสหรัฐถอนตัวจากความตกลงปารีส ซึ่งเป็นความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ยกเครื่องระบบการค้าสหรัฐ ด้วยการเก็บภาษีอากรจากต่างประเทศเพื่อสร้างความร่ำรวยต่อชาวอเมริกัน ไม่ใช่การเก็บภาษีชาวอเมริกันเพื่อสร้างความร่ำรวยแก่ประเทศอื่น

ยกเลิกนโยบายส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า

เปลี่ยนชื่อ ‘อ่าวเม็กซิโก’ เป็น ‘อ่าวอเมริกา’

ส่งมนุษย์อวกาศไปปักธงชาติสหรัฐบนดาวอังคาร

ยึดคลองปานามากลับคืนสู่สหรัฐ

ทั้งนี้ ก่อนเข้าพิธีสาบานตนอย่างเป็นทางการ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้พบกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีซึ่งกำลังจะพ้นวาระ ที่ทำเนียบขาว ซึ่ง ไบเดนกล่าวกับ ทรัมป์ว่า ยินดีต้อนรับกลับบ้าน

โดยงานนี้ยังพร้อมหน้าไปด้วยผู้บริหารด้านเทคโนโลยีจำนวนมาก รวมไปถึงบุคคล 3 คนที่รวยที่สุดในโลก ได้แก่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla และ SpaceX, เจฟฟ์ เบโซส  ซีอีโอของ Amazon และมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก  ซีอีโอของ Meta ต่างก็มีที่นั่งบนเวทีร่วมกับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีและสมาชิกในครอบครัวของทรัมป์